วันนั้นเป็นวันที่ผมตื่นเช้าไปส่งหม่อมแม่ที่ที่ทำงานครับ เพราะผมต้องใช้รถไปรับน้องสาวในตอน 11 โมง แล้วก็จะออกไปแร่ดในตอนเย็น แต่ด้วยคามที่หม่อมแม่ต้องทำงานในเวลาเช้าตรู่ ผมเลยต้องพลอยตื่นเช้าไปด้วย และด้วยความที่ไม่รู้จะไปไหนดีหลังจากเวลาอันเช้าตรู่นั้น ผมนั่งคร่ำคิดชั่วครู่ (จะใช้ภาษาเก่าทำไม) ก็เลยไลน์ไปหาเพื่อนสาวที่สนิทกัน ปรากฎว่า นางอยู่ที่ที่ทำงานแม่ผมพอดีครับ (แม่ผมทำงานที่ รพ. ครับ) มาเฝ้าแฟนของนาง ผมก็เลยชวนออกไปนั่งเล่นที่ร้านกาแฟ แต่นางบอกขี้เกียจ (เอ้า อิเดาะ) ผมก็เลยนั่งอยู่ในรถฟังเพลงอยู่นานพอสมควรพร้อมกับคิดไปว่า เราจะไปไหนดีนะ ชีวิตของคุณชายมันช่างว่างเปล่าเสียเหลือเกิน เมื่อมองดูเวลา ผมมีเวลาอีกประมาณสองชั่วโมงก่อนไปรับน้องสาว เมื่อเลขสองปรากฎขึ้นในหัวสมอง มันก็มีสิ่งนึงที่เกี่ยวกับเลขสองปรากฎขึ้นในความคิด นั่นคือ "ภาพยนตร์"
ผมหยิบมือถือขึ้นมาเช็คในแอพลิเคชั่นของค่าย มาจอร์ กดเข้าไปที่โรงภาพยนตร์ที่ใกล้ที่สุด พร้อมกับหนังที่อยากดูที่สุดในเวลานั้น นั่นคือ "ชัปปุยส์" ถุ๊ย "CHAPPIE" ครับ
เมื่อเวลาเหมาะเจาะขนาดนี้ และมีหนังที่อยากดู มีหรือคุณชายจะไม่ไป ผมรีบใส่เกียร์ถอยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างตัว C ใหญ่ ในทันใด ใส่เกียร์หมาขึ้นไปชั้นสองเพราะมันใกล้ฉายเต็มทีแล้ว ผมรีบบึ่งไปที่ตู้แล้วกดดูรอบหนัง
คะ..คุณพระ... CHAPPIE ไม่มีรอบ (อีเดาะ หลอกกู๊ววว) ผมเลื่อนดูอย่างถีถ้วนด้วยความรอบคอบอย่างสูงสุด แล้วก็พบว่า เออ ไม่มีจริงๆด้วยแหละ ทันใดนั้นผมก็เหลือไปเห็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งเป็นภาพยนตร์ต่างชาติเช่นเดียวกัน เรื่องนั้นคือ "PREDESTINATION ยึดเวลาล่าอนาคต" หื้มมม.. ยึดเวลา ล่าอนาคต น่าสนใจมิใช่น้อย กดเข้าไปดูรอบหน่อยซิ แล้วผมก็พบว่า มันเลยเวลาฉายไปประมาณ 15 นาทีแล้วครับ แต่เอาเถอะ ไหนๆก็มาแล้ว ไหนจะตัวอย่างที่ปกติก็มีกันร่วมครึ่งชั่วโมงอยู่แล้ว มิหนำซ้ำ ยังจะไปรับน้องทันด้วย (ตอนแรกกะแล้วว่าเลทแน่ๆ) เมื่อทุกอย่างเป็นใจขนาดนี้ เอาวะ! ผมกดจองที่นั่งหนึ่งที่ตรงกลางโรงภาพยนตร์ รูดบัตรดังปื๊ด บัตรออกดังพรึ่ด แล้วเดินไปยังพนักงานฉีกตัวทันที
พอผมยื่นตั๋วให้ พนักงานยืนสตั๊นชั่วครู่ ก่อนเอ่ยกับผมว่า "ลูกค้าดูเรื่องนี้เหรอครับ?" อ้าว กูกดมาให้มึงดูเล่นมั้งครับ ผมเลยตอบไปด้วยควาโมโหขั้นสุดว่า .. "ครับ" ทันทีที่ผมเดินเข้าโซนฉายภายนตร์ไป ผมหันกลับไปมองที่ที่พนักงานคนนั้นเคยยืน ... เค้าหายไปแล้วครับ ... แม่งใส่เกียร์หมาวิ่งไปนู่นแล้ว ผมแปลกใจเล็กน้อยแต่ไม่ได้สงสัยอะไรมาก แล้วเดินต่อไปยังโรงฉาย
ทันทีที่ได้เห็นจอภาพยนตร์ ผมถึงกับต้องดูนาฬิกาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นในใจว่า "OH SHIT" จอภาพมืดสนิท ไร้ซึ่งผู้คน ผมเอ่ยในใจขึ้นอีกครั้งว่า "สัด กูพลาดแล้ว" ผมเดินเข้าไปที่เก้าอี้นั่งแถว H ตรงกลางโรง กลางจนไม่รู้จะกลางยังไง เป็นที่ที่ผมชอบนั่งที่สุด แต่คราวนี้ ผมเริ่มจะเกลียดมันแล้วแหละครับ
ผมรอไปอีก 5 นาที ด้วยความอ้างว้าง ไม่มีแม้แต่เสียงเพลงให้ชื่นฉ่ำใจ พลางพูดคุยกับตัวเองไปว่า "กูรู้แล้วล่ะ ว่ามันวิ่งไปไหน" ซักพัก ตัวอย่างภาพยนตร์ก็ฉายขึ้น ... เพียงสองเรื่องเท่านั้น แล้วก็ขึ้นเพลงสรรเสริญพระบารมี ... ห๊ะ 2 เรื่อง เดี๋ยวๆ นี้เป็นการฉายตัวอย่างภาพยนตร์ที่เร็วที่สุดในชีวิตผม และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ได้ยืนตอนเพลงสรรเสริญพระบารมีบรรเลงขึ้น ผมขอโทษที่ผมทำแบบนั้น แต่มันเขินเกินจะยืนขึ้น ข้างบนนั่นหลังเครื่องฉาย ต้องมีคนยืนดูเราอยู่เป็นแน่
ผมดูภาพยนตร์ไปด้วยความเบื่อนิดๆหน่ายหน่อยๆ เพราะหนังเรื่องนี้ช่วงครึ่งแรกเต็มไปด้วยการเล่าเรื่อง เล่าอย่างเดียวเลย สปายบางก็ได้ (ถุ๊ย) จนไปถึงครึ่งหลัง หนังเริ่มจะมีความสนุกเพิ่มขึ้น เริ่มมีปม คลายปม จนสุดท้ายก็เป็นอะไรที่ผมประทับใจไม่น้อย (จริงๆเราไม่ควรจะมารีวิวหนังตอนนี้) ผมไม่รู้จะขอบคุณหรือเดินไปตบพนักงานให้หัวฝว่ำดี ที่ไม่ยอมบอกว่า "ไม่มีใครดูเลยนะครับ ฉายไปคงไม่คุ้มครับ" อะไรก็ว่าไป ผมเข้าใจได้ครับ แต่ก็ขอบคุณครับที่อุตส่าห์เปิดให้ดู ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณค่ายมาจอร์ด้วยครับที่ดูแลลูกค้าดีแบบนี้ แหม่ เยี่ยมจริงๆ (วันหลังเอาตารางในแอพออกด้วยนะ)
Wan Introlight's blog | Entertainments and Travel
วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
"ฝัง" ซิงเกิ้ลไหน ที่เท่าไหร่ อยู่ในอัลบั้มไหนไม่รู้ของ SEASON FIVE
เพิ่งรู้เองครับว่า SEASON FIVE อยู่ค่าย WE RECORDS (กรรม)
เพลงนี้เปิดมาด้วยซาวน์คีย์บอร์ดที่คุ้นเคย ได้ยินกันอยู่ในหลายๆเพลง หลายๆศิลปินครับ เรียกได้ว่าเป็นซาวน์คีย์บอร์ดที่เพราะที่สุดเลยก็ว่าได้ มาพร้อมกับไลน์กีตาร์ที่มีเอฟเฟคงุ้งๆวิ้งๆ เรียกว่าอะไรไม่รู้ครับ เรีกยว่า fla.. อะไซักอย่างเนี่ยแหละ ลองไปฟังกันเอาเองนะจ๊ะ ตัวพาร์ทของเครื่องดนตรีเองไม่มีอะไรมากเลยครับ กีตาร์ เบส คีย์บอร์ด กลอง จบ กีตาร์ไลน์เดียวด้วย แต่เพลงมันก็ฟังดูเต็มได้ด้วยด้วยเสียงคอรัสจากสมาชิกที่เหลือ ที่ทำอะไรไม่ได้เพราะโปรดิวเซอร์ให้พี่เอกร้องคนเดียวเลย (ชื่อเอกใช่มั้ย?)
เนื้อส่วนใหญ่พูดถึงโมเม้นท์ที่เราต้องกลับมาเจอแฟนเก่าแล้วก็พบว่า โอ้ว คุณพระ เธอช่างสวยเหลือเกินไม่ต่างกับตอนที่คบกันเลย อยากจะเข้าไปทักจริงๆ ... ครับ มันก็จบเพียงเท่านี้ แต่ก่อนที่จะมาถึงโมเม้นท์นั้น เนื้อเพลงเล่าถึงช่วงเวลาที่ผ่านๆมาหลังจากเลิกกันด้วย ว่าทรมานเจ็บปวดอะไรขนาดไหน เนื้อเพลงมันเข้าได้ง่ายมากครับ แต่ส่วนตัวฟังแล้วรู้สึกเหมือนเนื้อเพลงมันูกจับยัดมาในเมโลดี้ มันฟังดูไม่ค่อยสมบูรณ์ ไม่ค่อยคล้องจองอย่างบอกไม่ถูกครับ
คอร์ดของเพลงนี่มันไปทาง Season Five มาก คือมันเข้ากับวงนี้มากๆ แต่ที่หนักคือ รู้สึกว่าคีย์มันจะสูงมากสำหรับพี่เอกครับ บางทีฟังเค้าร้องแล้วก็อึดอัดแปลกๆ ลุ้นๆว่า เอ๊ะ จะร้องถึงมั้ย (เอาจริงๆมันก็ต้องถึงอยู่แล้วแหละ แหม่ จะลุ้นทำไม)
ส่วนตัวผมชอบท่อน Bridge มากเลยครับ ไม่รู้ทำไม แต่รู้สึกว่ามันเท่
MV เพลงนี้่ส่วนใหญ่อยู่ที่ทะเลครับ ไม่สิ ท้งหมดเลยก็ว่าได้ คือถ่ายที่พัทยาทั้งหมดนั่นแหละครับ ตัว MV ก็ไปพร้อมกับเนื้อเพลงดี เล่าได้ตรงกัน ชอบโมเม้นท์ที่พี่เอกไปเจอแฟนเก่า ถอดแว่นแล้วทำหน้าตะลึงมากเลยครับ ไปเลื่อหาดูกันนะ 555555
"ห่างไม่ไกล" ซิงเกิ้ลใหม่ไฉไลกว่าเดิมจาก LULA
แค่เปิดชื่อเพลงมาก็มีกิมมิคแล้วครับสำหรับเพลงนี้ "ห่างไม่ไกล" (เออ ห่างนะ แต่ไม่ไกลอะ เข้าใจปะ)
เพลงนี้เปิดมาด้วยไลน์กีตาร์ง่ายๆ ที่มีเอฟเฟคไปทางเบส ตอนแรกฟังก็แอบคิดว่าเป็นเบสไปแล้วนะ แต่ไม่ใช่ มันคือกีตาร์ พอเข้าท่อน Verse เริ่มมีเสียงของ Synth ที่ไม่ค่อยได้ยินที่ไหน แต่มันมาอยู่ในเพลงนี้ ก็แปลกหูดีครับ เสียงร้องของพี่ลุลาก็ฟังดูชัดเจนดี ชัดมากอะ มิกซ์ยังไงไม่รู้แต่โคตรชัดเลย น่าจะเพราะใส่ Echo เป็น Background นิดๆด้วยมั้งครับ ตอนแรกแอบขัดๆกับ Echo นะ แต่ฟังไปฟังมาพอเข้าไปที่ท่อนดนตรีหนักๆแล้วมันก็ฟังดูโอเคครับ (โดยส่วนตัวไม่ชอบกับการใส่ Echo ในเสียงร้อง ไม่รู้ทำไม แต่ไม่ชอบจริงๆนะครับ 5555) เรื่องของกลองซาวน์แสนร์ต่ำอีกแล้วครับ (มันเป็นเทรนด์น่ะต้องเข้าใจ) แต่มันก็เพราะ เข้ากับเพลงดีครับ
เนื้อเพลงพูดถึงอารมณ์เหงาๆ แต่ก็ไม่อยากให้เหงานะ เป็นอารมณ์แบบ เราห่างกันเหอะ แต่ข้าก็ไม่อยากให้เอ็งเหงานะ แต่ข้าอะเหงา แต่อย่าให้ความเหงาทำอะไรเรานะ อะไรประมาณนี้แหละครับ (งงแมะ?) ใครเหงาๆก็แนะนำให้ฟังนะครับ
MV นี่เต้นกันแทบจะทั้งเพลง ตอนแรกเหมือนนางเอกจะห่างๆกับแฟน แล้วก็เหงาครับ เพื่อนเลยลากออกไปเต้น ประมาณว่า เห้ยมึง ไปซ้อมได้ละ นั่งทำห่านไรอยู่ได้ (ไม่น่าใช่ละ) ซักพักแฟนนางก็กลับมา จบ (หึ๊ ?) แค่นั้นครับ แค่นั้นจริงๆ ไม่สิ่ มันมีตอนที่เพื่อนเอารูปไปให้แฟนดูด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเอาไปให้ หรือรู้ ไปดูเอาเองนะครับ 55555 นางเอกนี่เต้นพริ้วมากฮะ ชอบเลย ใครไม่รู้ ตอนแรกดูนึกว่าจูนจูน แต่ไม่ใช่ครับ เพิ่งรู้ใน MV นี้เองว่าพี่ลุลาเต้นเป็นด้วย ปกติเราก็จะเห็นแค่ตอนโยกๆตามเพลง ครั้งนึงเคยดูคอนเสิร์ตของพี่ลุลาครับ ดูสดเลย พี่ลุลาสวยมากกกกกก ใส่เสื้อเอวลอย คือต่างจากลุลาที่คิดเอาไว้มากเลยทีเดียว
เป็นอีกเพลงนึงที่เหมาะกับการเปิดตัวอัลบั้มใหม่ครับ คิดว่าเพลงต่อๆไป Theme เพลงก็น่าจะประมาณนี้ รอติดตามแล้วกันนะครับ
"TOKYO JUNCTION" ซิงเกิ้ลโกอินเตอร์เออเหอออของ สแตมป์ อภิวัชร์ x P.O.P
ถือว่าใจเด็ดมากครับที่กล้ามาปล่อยซิงเกิ้ลสวนกระแส POTATO แบบนี้ ตอนแรกเห็นชื่อ P.O.P นี่ภาพพี่นภลอยมาแต่ไกล แต่ที่ไหนได้เป็นคู่หูคู่แร็พจากแดนอาทิตย์อุทัย
เปิดต้นเพลงมาด้วยให้ตายสิพับผ่า ซึ่งบอกเลยว่าเอามาใส่แบบนี้แล้วผมรู้สึกว่ามันเท่อย่างบอกไม่ถูกเลยครับ ต่อไปด้วยการขึ้นโน๊ตเบสแบบดึบดึ๊ย ฟังแล้วก็เท่ไปอีกแบบดีครับ พอเข้าท่อนฮุคเท่านั้นแหละ เสียงแสตมป์นี่โอะโหหหหห เบาสัด! ถ้าฟังเพลงอย่างเดียวนี่ไม่รู้นะว่าแสตมป์ร้อง ยังไม่พอ เนื้อท่อนฮุค มีใจความว่า "เอ็งเป็นใคร เอ็งเป็นใคร พวกข้าแร็พเปอร์แดนอาทิตย์อุทัย Music Survivor (แปลสวยๆว่าไรไม่รู้แหละ) สบายมั้ย? สบายดี TOKYO TOKYO JUNCTION" ห๊ะ อะ.. อะไรของมึง ตอนหลังๆนี่มี "who are you, who are you? สวัสดีนะ สวัสดีครับ คุณเป็นใครผมไม่อยยากจะรู้" อ้าว สรุปมึงทักนี่ไม่อยากรู้ว่ากูเป็นใคร ? เอ้า เอ้างง งงเลยทีนี้
บอกตรงๆว่าการเขียนซับนี่สุดยอดมาก แม่งอ่านไม่ออกเลยครับ พออ่านออกเท่านั้นแหละ โอะโหหหหหหหหห ไม่รู้เรื่อง (อ้าว) แต่มันก็พอเข้าใจได้ครับว่าเค้าพูดถึงเมือง TOKYO ที่มันนู่นนี่นั่น นั่นแหละ ตามนั้นครับ
ด้าน MV นี่ แทบจะเป็น MV ที่ชิวที่สุดเท่าที่เคยเห็นเลยครับ เซลฟี่ทั่วเมือง TOKYO แล้วเดินไปเรื่อยๆ พร้อมร้องว่า สบ๊าย สบายดี จย้ะ
"ทิ้งไว้กลางทาง" ซิงเกิ้ลที่สองน้ำตานองเต็มตลิ่งจาก POTATO
มัน POTATO มากครับ มันคือเพลงที่ฟังครั้งเดียวก็ติดหูไปได้ถึงเช้า มันคือการทำถูกแล้วที่กลับมา Genie (เกี่ยวปะวะ) มันคือเพลงที่ถูกส่งไปมิกซ์ถึง LA และมันคือเพลงที่ซาวน์กีตาร์เด็ดมากครับ
ซาวน์กีตาร์ที่ว่าเด็ดนี่หมายถึงกีตาร์โปร่งนะครับ มันเด็ดจริง คือผมชอบซาวน์แบบนี้มากครับ ชอบเป็นการส่วนตัว (ชอบเหี้ยๆแหละว่าง่ายๆ) คือผมทำกี่เพลงก็จะทำซาวน์กีตาร์แบบนี้แหละ (จะพูดถึงเพลงตัวเองทำมะเขือม่วงอะไร กลับเข้าเรื่อง!) เพลงนี้เป็นเพลงที่เน้นเรื่องของอารมณ์ล้วนๆครับ กีตาร์ไม่เยอะ เปียโนไม่เยอะ เบสไม่เยอะ กลองไม่เยอะ คือแม่งน้อยทุกอย่างอะ แต่รวมกันแล้วดีเลยครับ มันเลยกลายเป็นเพลงนึงที่ฟังง่าย แต่ติดหูชิบหาย เนื้อเพลงนี่ต้องยกเครดิตให้พี่ โจ PANCAKE(เหมือนเพชร อำมะระ) เลยครับ เนื้อเพลงมันเด็ดดวงเด็ดสะระตี่เด็ดมะเขือเผามากครับ (เว่อไปเปล่าวะ) แต่คือถ้าอยู่ในอารมณ์ต้องมีน้ำตาร่วงกันบ้างแหละ ในเรื่องของกีตาร์ไฟฟ้าบอกเลยว่าถ้าเล่นสดนี่พี่หั่ง (มือกีตาร์) แม่งจะโคตรพ่อโคตรแม่สบายมากครับ เล่นให้ตรงจังหวะก็พอ ในตัวซาวน์กีตาร์ตรงท่อนฮุคผมเองไม่ค่อย จะปลื้มเท่าไหร่ ผมมองว่ามันไม่ค่อยเคลียร์ครับ แต่มันก็ฟังดูเป็น Background ให้กับเพลงดีครับ ไม่มาตีกับใคร
มาที่ด้าน MV กันบ้าง บอกเลยว่า ใบเตย สวยมากครับ (-//-) แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าพี่ปั๊บจะผลันมาเล่น MV แล้วหลังจากที่เป็นมือกีตาร์ให้กับวงร็อคระดับตำนานอย่าง The Sun (นั่นมันป๊อบสัด !) เอาเป็นว่า MV นี้เป็นพี่ปั๊บนี่ผมว่าเหมาะที่สุดแล้วครับ ตอนแรกนึกว่าจะต้องมานั่งดูคนให้สัมภาษณ์กันยาวเป็นสากกระเบือยันเรือรบแล้ว คงจะต้องกดข้ามกันไปซัก 5 นาทีได้ เรื่องของภาพมันก็สวยดีครับ ผมเป็นคนชอบภาพแบบนี้ตอนกลางคืนอยู่แล้ว เลยมองว่ามันสวยดี แต่การเล่น MV นี้นี่ไปแม่งทั่วกรุงเทพ ริมตึก กลางถนน กลางสะพานมึงก็เอา คุณพระ นี่มึงออกไปถ่ายกันตอนตี 2 ใช่หรือไม่ไหนตอบ กูล่ะสงสารพี่ปั๊บ กว่าจะถ่ายเสร็จนี่ไม่เดินกันขาลากเลยรึ ยังจะมีถ่าย Speed อีก ทุ่มเทจริงๆเลยครับผู้ชายคนนี้ สมแล้วที่เป็นถึงมือกีตาร์โซโล่ระดับพระ..(พอแล้ว!)
"คำตอบที่ใช่" ซิงเกิ้ลใหม่พาคนไทยออกไปเที่ยวจาก 25HOURS
นี่คือเพลงที่เครื่องดนตรีเบาบางที่สุดของ 25HOURS ในอัลบั้มนี้เลยก็ว่าได้ครับ เครื่องดนตรีที่ฟังแล้วโดดเด่นก็คงเป็นกลองและเบส ซึ่งในเพลงนี้มีการดีไซน์จังหวะกลองที่แตกต่างมากสำหรับเพลง Pop ไทย (ในช่วงท่อน Verse) บอกตรงๆว่าไม่เคยได้ยินจังหวะแบบนี้มาก่อน สะดุดหูดีจริงๆเลยเชียว มิหนำซ้ำยังมีซาวน์ของสแนร์ที่ต่ำจนไม่รู้จะต่ำไปไหน มึงจะต่ำแข่งกับกระเดื่องเหรอ แต่เอาเถอะ เราเข้าใจว่ามันเป็นเทรนด์ ตอนนี้นี่แสนร์ใครต่ำสุดแม่งชนะเลิศนะครับ ตอนนี้นี่ให้ 25HOURS ต่ำอันดับหนึ่งเลย
อย่างที่บอกตอนแรกครับว่าดนตรีมันเบาบาง แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีนะ มันดีครับ เพราะเครื่องดนตรีที่เป็น Background มันค่อนข้างเยอะพอสมควร เปียโนเอย อะไรเอย (ที่เขียนอะไรเอยเพราะฟังไม่ออกว่ามันคืออะไร) มันตุ่งตุ๊งๆมากเลยครับ ยังไม่เพียงเท่านั้นมันยังซาวน์ของ Synth ที่ให้อารมณ์แบบภูเขา ทะเล ธรรมชาติซะจนอยากจะออกไปเที่ยวเมืองเหนือมันซะตอนนั้นเลย มันเป็นอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกอยู่ท่ามกลางธรรมชาติมากเลยทีเดียวเชียวแหละเธอ
มาที่ด้าน MV กันบ้าง คือมัน Tie In กันแบบดื้อๆเลยครับ โอเคพอเข้าใจได้ครับไม่ว่ากัน MV นี้ทำให้เข้าใจได้เลยว่า เออ ปีนี้แม่งปีของซันนี่จริงๆ กูเห็นซันนี่ในทีวีบ่อยมาก ยังจะตามมาหลอกหลอนใน MV อีก แต่ลุคสกินเฮดแบบนี้เหมาะกับหนุ่มนักผจญภัยมากครับ ถ้าจะให้พาเพื่อนไปเที่ยวซักคนก็ลุคแบบนี้แหละ -- ออกทะเลมากไปละ MV นี้นี่เท่าที่ดูคิดว่าน่าจะมีหนังสั้นนะครับ ถ้าจะทำแค่ MV แล้วบุกป่าฝ่าดงถ่ายขนาดนี้นับว่างทุนกันมากเลยทีเดียว แต่ก็อาจจะเป็นแค่ MV ก็ได้ รอดูกันต่อไปครับ
เพลง : คำตอบที่ใช่
ทำนอง : สมพล รุ่งพาณิชย์
เนื้องร้อง : สมพล รุ่งพาณิชย์ / ปิยวัฒน์ มีเครือ
เรียบเรียง : 25hours
เพลงประกอบโฆษณา Dao COFFEE
iTunes Download : https://goo.gl/0t0TCU
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)